วันอังคารที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2560

กิจกรรมที่ 1 คลังความรู้และข้อสอบ



       👧TCAS 👦(อ่านว่า ที-แคส) คือระบบการรับสมัครคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในระบบกลางปีการศึกษา2561ย่อมาจากThaiUniversityCentralAdmissionSystemจะเรียกสั้นๆว่าTCAS61ปีนี้การสอบข้อสอบกลางGAT/PAT,O-NET,9วิชาสามัญและวิชาความถนัดแพทย์หรือความถนัดอื่นๆที่มหาวิทยาลัยจัดสอบวิชาที่นอกเหนือจากข้อสอบกลางจะจัดสอบหลังจากนักเรียนจบม.6คือช่วงกุมภาพันธ์ - มีนาคม – เมษายน ปี 2561




รอบที่ 1 💜การรับด้วย Portfolio โดยไม่มีการสอบข้อเขียน
กลุ่มเป้าหมาย : ผู้สมัครทั่วไป ผู้สมัครท่ีมีความสามารถพิเศษ ผู้สมัครโควตา และผู้สมัครเครือข่าย 
กำหนดเวลา : ดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือนธันวาคม
รายละเอียด : 👇👇👇

รอบที่ 2 💛การรับแบบโควตาที่มีการสอบข้อเขียนหรือข้อปฏิบัติ กลุ่มเป้าหมาย : ผู้สมัครที่อยู่ในเขตพื้นที่หรือภาคโควตาโรงเรียนในเครือข่าย(ไม่ใช่การรับทั้งประเทศ) โครงการความสามารถพิเศษ(Talent)และโควตา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
กำหนดเวลา : ดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือนพฤษภาคม 
รายละเอียด : 👇👇👇
รอบที่ 3  💚การรับตรงร่วมกัน
กลุ่มเป้าหมาย : 
โครงการ กสพท. โครงการอื่นๆ และผู้สมัครทั่ว
ไป
กำหนดเวลา : ดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายน 
รายละเอียด : 👇👇👇 

รอบที่ 4 💙การรับแบบ Admissions โดยใช้เกณฑ์แต่ละสาขาเหมือนกัน (ตามเกณฑ์ค่าน้ำหนักที่กำหนด ไว้ล่วงหน้า 3 ปีมาแล้ว)
กลุ่มเป้าหมาย : 
ผู้สมัครทั่วไป
กำหนดเวลา : ดำเนินการเสร็จสิ้น
ภายในเดือนกรกฎาคม 
รายละเอียด : 👇👇👇
รอบที่ 5 💕การรับตรงอิสระ
กลุ่มเป้าหมาย : ผู้สมัครทั่วไป
กำหนดเวลา : ดำเนินการเสร็จสิ้น
ภายในเดือนกรกฎาคม 
รายละเอียด : 👇👇👇

สรุปคิวสอบแบบกระชับ 

สรุปค่าสมัครสอบทั้งหมด
https://pbs.twimg.com/media/DId1bsgVwAAKBdv.jpg

เว็บไซต์แนะนำสำหรับการทำ Portfolio

💥 http://dekshowport.com/ 💥



👾 TCAS61 รวมลิ้งค์ดาวน์โหลดโควตามหาวิทยาลัย 👾

🔺จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

🔺มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

🔺มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
🔺มหาวิทยาลัยนเรศวร

 🔺มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
http://tcas.cupt.net/src/all/00400.pdf
  

💣💥💣💥💣💥💣💥💣💥💣💥💣💥💣💥💣💥💣💥💣💥💣💥💣💥💣💥💣💥

- คลังข้อสอบ -
คลังข้อสอบ O-NET &เฉลย
              O-net 49 (จัดทำปีการศึกษา 2548)
       
       O-net 50 (จัดทำปีการศึกษา 2549)

       O-net 51 (จัดทำปีการศึกษา 2550)
             O-net 52 (จัดทำปีการศึกษา 2551)

       O-net 53 (จัดทำปีการศึกษา 2552)

       O-net 54 (จัดทำปีการศึกษา 2553)

       O-net 59 (จัดทำปีการศึกษา 2558)

คลังข้อสอบ GAT&PAT พร้อมเฉลย

GAT/PAT ครั้งที่ 1 (สอบ มี.ค. 52)



GAT/PAT ครั้งที่ 2 ปีการศึกษา 2552



GAT/PAT ครั้งที่ 3 ปีการศึกษา 2552 (สอบ ต.ค. 52)



GAT/PAT ครั้งที่ 1 ปีการศึกษา 2553 (สอบ มี.ค. 53)



GAT/PAT ครั้งที่ 2 ปีการศึกษา 2553 (สอบ ก.ค. 53)

http://forum.02dual.com/index.php?topic=867.0


GAT/PAT ครั้งที่ 3 ปีการศึกษา 2553 (สอบ ต.ค. 53) 

http://forum.02dual.com/index.php?topic=1018.0


GAT/PAT ครั้งที่ 1 ปีการศึกษา 2554 

http://forum.02dual.com/index.php?topic=1504.0


คลังข้อสอบ 9 วิชาสามัญ พร้อมเฉลย     

ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2555 (สอบ ม.ค. 2555)

ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2556 (สอบ ม.ค. 2556)

ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2557 (สอบ ม.ค. 2557)

ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ปี 2558 (สอบ ม.ค. 2558)

ข้อสอบ 9 วิชาสามัญ ปี 2559 (สอบ ธ.ค. 2558)

💥 วิธีการตรวจสอบผลคะแนน O-NET 💥
เครดิตภาพประกอบจาก http://campus.sanook.com/exam/o-net/
1. คลิกเข้าระบบทดสอบ O-NET 👉 http://www.niets.or.th/th/

2. ใส่ชื่อและรหัสผ่านที่จะตรวจสอบ 
👇

3.หน้าระบบประกาศและรายงานผลคะแนนสอบ

4.หน้าสอบถามผลคะแนนO-NET รายบุคคล


💢  คลังความรู้  💢

10 อันดับสาขาปริญญาตรีที่บริษัทต้องการมากที่สุด 2017
http://www.admissionpremium.com/content/1798


อันดับ 1 การเงิน (Finance) >> ขึ้นมาจากอันดับ 3 จากปี 2016

การบริหารและจัดการเงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด คือหัวใจสำคัญของสาขาวิชาการเงิน (Finance) เรียนจบมาแล้วก็สามารถไปทำงานได้หลายด้าน ทั้งโบรกเกอร์, งานธนาคาร หรือบริษัททั่วไป นายจ้างและบริษัทต่างๆ ย่อมต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถมาช่วยบริหารองค์กร จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่สาขาวิชาการเงิน จะเป็นสาขาฮอตติดอยู่ในอันดับที่ 1 จากผลสำรวจที่คิดเป็น 60.4% ของทั้งหมด

อันดับ 2  บัญชี (Accounting) >> ตกลงมาจากอันดับ 1 จากปี 2016

สาขาวิชาบัญชีถึงแม้ว่าจะตกลงมาหนึ่งอันดับ แต่ยังคงเป็นสาขายอดนิยมที่การันตีได้ว่าจบแล้วมีงานทำอย่างแน่นอน ไม่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ในต่างประเทศก็ฮอตไม่แพ้กัน เพราะว่าการทำธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารธุรกิจ การจัดการ การประกอบกิจการไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็ต้องใช้บุคลากรทางด้านบัญชีทั้งสิ้น โดยผลจากการสำรวจของ NACE บริษัทและนายจ้างต้องการมากที่สุดเป็นอันดับ 2 คิดเป็น 59.7% ของทั้งหมด

อันดับ 3 บริหารธุรกิจ (Business Administration/ Management) >> ขึ้นมาจากอันดับ 4 จากปี 2016
เรื่องของการเงินและการบริหารธุรกิจ เป็นอีกหนึ่งสาขาวิชาที่นายจ้างต้องการจ้างงานมากที่สุด ในการประกอบธุรกิจนั้นเรื่องของการบริหารงานจัดว่าสำคัญมาก สาขาบริหารธุรกิจจึงมีความสำคัญกับธุรกิจในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งทักษะเรื่องการวางแผนและวิเคราะห์ทางการเงินการบริหารเงินทุน และยังเป็นสาขาที่นิยมเรียนมากในระดับปริญญาโทอีกด้วย

อันดับ 4 วิทยาการคอมพิวเตอร์ หรือ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ (Computer Science) >> ตกลงมาจากอันดับ 2 ของปี 2016

สาขาวิชาเอกที่นายจ้างต้องการมากที่สุดอันดับที่ 4 ได้แก่ วิทยาการคอมพิวเตอร์ คิดเป็น 50.7% ผู้ที่จบปริญญาสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ จะมีความรู้ที่หลากหลายและเหมาะสมกับอาชีพมากมาย เช่น วิศวกรซอฟต์แวร์, โปรแกรมเมอร์, นักพัฒนาเว็บไซต์ และคอมพิวเตอร์กราฟฟิคดีไซน์ เป็นต้น

อันดับ 5 วิศวกรรมเครื่องกล (Mechanical Engineering) >> ยังอยู่ในอันดับเดิม จากปี 2016
สาขาฮิตตลอดกาลคงจะหนีไม่พ้นหลักสูตรด้านวิศวกรรมศาสตร์ ที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะวิศวกรรมเครื่องกลที่นายจ้างต้องการตัวมากที่สุดอีกสาขาหนึ่ง คิดเป็น 48.6% เมื่อเรียนจบไปแล้วสามารถเลือกทำงานในสายวิศวกรรมได้หลากหลายด้าน ทั้งการผลิต, พลังงานและระบบสาธารณูปโภคหรือจะทำงานในสายอุตสาหกรรมรถยนต์, น้ำมัน, อุตสาหกรรมรีไซเคิล, เทคโนโลยี, เทคโนโลยีทางดนตรี, วิศวกรรมการแพทย์ เป็นต้น

อันดับ 6 ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ (Management Information & Systems) >> ขึ้นมาจากอันดับ 7 ปี 2016
ปัจจุบันขอบเขตการทำงานของระบบสารสนเทศได้มีการขยายตัว จากการรวบรวมข้อมูลที่มาจากภายในองค์การไปสู่การเชื่อมโยงกับแหล่งข้อมูลจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ทั้งจากภายในท้องถิ่น ประเทศ และระดับนานาชาติ ปัจจุบันธุรกิจต้องใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่มีศักยภาพสูงขึ้น เพื่อสร้าง MIS ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจและขีดความสามารถในการบริหารงานของผู้บริหารในยุคปัจจุบันให้ดียิ่งขึ้น

อันดับ 7 สารสนเทศศาสตร์ (Information science & system) >> ตกลงมาจากอันดับ 6 ปี 2016
วิทยาการสารสนเทศ หรือ Information Science เป็นการศึกษาเกี่ยวกับทฤษฎีสารสนเทศ ตั้งแต่การรับรู้ การทำความเข้าใจ การวิเคราะห์ การสังเคราะห์ การเก็บ การค้นคืน และการสื่อสารสารสนเทศอย่างเป็นระบบ ในการศึกษาด้านวิทยาการสารสนเทศนั้น มีความจำเป็นต้องศึกษาวิชาในสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ด้วย เนื่องจากใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือสำหรับประมวลผลสารสนเทศนั่นเอง

อันดับ 8 โลจิสติกส์และซัพพลายเชน (Logistics/ Supply Chain) >> ขึ้นมาจากอันดับ 9 ปี 2016
โลกแห่งการแข่งขันทางธุรกิจไม่ใช่เพียงแค่มีการดำเนินงานให้เกิดการซื้อขายและบริการเท่านั้นแต่ต้องเข้าใจในเรื่องของการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนด้วยเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้อยู่รอดท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้ดีกว่าคู่แข่งขันอีกด้วยดังนั้นผู้ที่จบการศึกษาทางด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนยังเป็นที่ต้องการมากในตลาดแรงงาน วัดจากผลการสำรวจของ NACE

อันดับ 9 วิศวกรรมไฟฟ้า (Electrical Engineering) >> ตกลงมาจากอันดับ 8 ปี 2016
สำหรับสายงานด้านวิศวกรรมไฟฟ้าเมื่อเรียนจบออกมาแล้ว สามารถทำงานได้หลากหลายสายงานด้วยกัน เช่น วิศวกรควบคุมการออกอากาศ, วิศวกรควบคุมอุปกรณ์ ฯลฯ โดยสายงานหลักของสาขานี้จะเน้นอยู่ที่ สายงานด้านยานยนต์, อวกาศ, เทคโนโลยีสารสนเทศ, เครื่องมือแพทย์, เครื่องมือสื่อสาร และอุตสาหกรรมการผลิต เป็นต้น

อันดับ 10 เศรษฐศาสตร์ (economics) >> ยังคงอยู่ในอันดับเดิม จากปี 2016
จากการสำรวจโดย NACE พบว่าสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ เป็นสาขาวิชาที่นายจ้างต้องการมากมาเป็นอันดับที่ 10 โดยคิดเป็น 38.9% ของทั้งหมดที่ได้ทำการสำรวจ สำหรับสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ มีความจำเป็นและสำคัญมากตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยศึกษาด้านการผลิต การกระจาย การบริโภคสินค้าและบริการ รวมไปถึงการวิเคราะห์ทางเศรษฐศาสตร์ ถือเป็นศาสตร์ที่จำเป็นมากต่อธุรกิจต่างๆ รวมไปถึงการเงิน ในมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยธุรกิจของประเทศอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะนิยมสอนทฤษฎีเศรษฐศาสตร์กระแสหลักที่เรียกว่า “Neo – Classical Economics”

🙉 เพลงฝึกสมาธิ&ความจำ 👂






Application เพื่อการศึกษา 👋






-KEEP MY FINGER CROSSED-
💗💗💗💗💗💗💗💗

วันอังคารที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

ใบงานที่ 4 บทความสารคดี

 

ต้นกระบองเพชร
🔺 (cactus) 🔺



              กระบองเพชร (Mila sp., อังกฤษ: cactus) เป็นพืชชนิดหนึ่งที่อยู่ในทะเลทราย ต้นกระบองเพชรสามารถยืนต้นอยู่ได้แม้อยู่ในทะเลทรายที่แห้งแล้งกันดารโดยไม่ตายเพราะนานๆครั้งหนึ่งจะมีฝนตกจำนวนมากโดยต้นกระบองเพชรจะเก็บน้ำไว้ในลำต้นเป็นจำนวนมากมันจะใช้น้ำตลอดระยะเวลาแห้งแล้งที่ยาวนานและมันจะเปลี่ยนใบเป็นหนามเพื่อลดการคายน้ำดังนั้นมันจึงสามารถอยู่ในทะเลทรายได้
              สรรพคุณทางสมุนไพรของกระบองเพชร: สามารถใช้บรรเทาโรคบิดได้ สารสกัดกระบองเพชรช่วยลดอาการเมาค้าง ช่วยดูดซับรังสีจากจอคอมพิวเตอร์
        กระบองเพชรมีชื่ออื่นดังนี้ : โบตั๋น ท้าวพันตา แคกตัส









ความเชื่อ            การเป็นมงคล คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นกระบองเพชรไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดโชคลาภ เพราะถ้าผู้ใดปลูกต้นกระบองเพชรให้เกิดดอกได้มากและสวยงามแสดงว่าผู้นั้นจะมีโชคลาภ ดังนั้นคนไทยโบราณถือว่าเป็นไม้เสี่ยงทายชนิดหนึ่ง นอกจากนี้ยังเชื่ออีกว่ายังสามารถป้องกันศัตรูจากภายนอกได้อีกด้วย เพราะต้นกระบองเพชรมีหนามและความคงทนแข็งแรง ดังนั้นคนไทยโบราณจึงนิยมปลูกตามแนวรั้วบ้าน เพื่อให้เป็นที่กลัวเกรงของศัตรูภายนอกตำแหน่งที่ปลูกและผู้ปลูกเพื่อเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย ควรปลูกต้นกระบองเพชรไว้ทางทิศตะวันตกผู้ปลูกควรปลูกในวันเสาร์เพราะโบราณเชื่อว่าการปลูกไม้เพื่อเอาคุณทั่วไปให้ปลูกในวันเสาร์


วิธีการปลูกและการดูแล
          มีคำพูดที่ได้ยินอยู่เสมอว่า ถ้าเลี้ยงแคคตัสตาย ก็ไม่ต้องเลี้ยงต้นอะไรแล้วแต่สำหรับคนที่เคยเลี้ยงมาแล้ว ก็มักจะพูดว่าเลี้ยงอยากจัง เน่าตายหมดเลย ต้นไม่สวยเหมือนตอนที่ซื้อมาเลย” สรุปว่า เลี้ยงง่ายหรือยากก็ไม่รู้ แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมาที่เคยเลี้ยงดูแลพวกเขาอยู่ 3 ช่วงใหญ่ ๆ พบว่า ถ้าเข้าใจพื้นฐานความต้องการของต้นไม้พวกเขาเหล่านี้ดีแล้ว การเลี้ยงและดูแลแคคตัสก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยครับ แต่ที่เลี้ยง ๆ แล้วตาย นั่นเป็นเพราะดูแลเขาอย่างผิดวิธีนั่นเอง

          ธรรมชาติของแคคตัสส่วนใหญ่เกิดในทะเลทราย ที่โดนแสงแดดจัดทั้งวัน แถมฟ้าฝนก็ไม่ค่อยจะตก น้ำก็ไม่ค่อยจะมี แค่เรื่องนี้ เราก็น่าจะทราบได้ดีแล้วว่า การดูแลพวกเขาให้ดี ต้องทำอย่างไร จุดหลักจากข้อมูลข้างต้น ก็จะพบว่า แคคตัสต้องวางให้โดนแดดจัด ๆ ทั้งวัน และไม่ต้องรดน้ำให้เขามาก พวกเขาเอาตัวรอดได้จากการเก็บน้ำไว้ในลำต้นอันอวบอิ่มอยู่แล้วครับ
          ในบ้านเรา ถ้าเราไปซื้อแคคตัสจากร้านค้ามา ในการเลี้ยงดูของฟาร์มแต่ละฟาร์มนั้น ส่วนมากเขาจะเลี้ยงกันในโรงเรือนแบบปิด มีหลังคาเป็นหลังคาโปร่งแสงเพื่อให้แสงแดดส่องเข้ามาได้ตลอดทั้งวัน แต่จะกันน้ำกันฝนที่ตกลงมาเพียงเท่านั้นเอง การรดน้ำ ก็จะทำการรด 3-5 วันต่อครั้ง ดังนั้น เวลาที่เราไปซื้อหามาแล้วเอาพวกเขาไปตั้งบนโต๊ะทำงาน ห้องรับแขก โดยทันที แบบนี้ สักพักก็เตรียมเงินไว้ซื้อใหม่ได้เลยครับ เพราะพวกเขาจะค่อย ๆ ตายไปแบบที่คุณเองก็ไม่รู้ตัว



สถานที่ปลูกเลี้ยงแคคตัส
          การดูแลให้พวกเขางดงาม สวยเหมือนตอนที่ซื้อมา ที่ควรทำก็ต้องทำการเลี้ยงดูให้เหมือนกับฟาร์มนั่นแหละครับ เป็นโรงเรือนหลังคาใส แต่ว่าจะให้ทำแบบนั้นก็คงลำบากจนเกินไป ดังนั้น เราก็ต้องค่อย ๆ ให้พวกเขาปรับตัวทีละนิด เช่น วางพวกเขาไว้ที่ระเบียงที่โดนแดดเกือบทั้งวัน สำหรับคนที่พักอยู่ตามคอนโด จะอยู่ตะวันออกหรือตะวันตก ที่มีแสงแดดก็คงโชคดีหน่อย แต่ถ้าไม่มีแสงแดดเลย ก็ไม่ควรซื้อพวกเขามาเลี้ยงเลยนะครับ ตายเสียเปล่า ๆ
สำหรับคนที่อยู่บ้านมีสนามมีพื้นที่ที่โดนแดดจัดทั้งวัน ก็จะดีมาก สามารถเอาพวกเขาไปตากแดดได้เต็มวันเลยทีเดียว แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าฝน ก็หาขวดพลาสติกใสมาตัดด้านก้นขวดออก แล้วครอบต้นแคคตัสไว้เป็นต้น ๆ เลยก็จะป้องกันน้ำฝนได้ดีครับ ด้านปากขวดไม่ต้องปิดฝานะ อากาศจะได้ระบายถ่ายเทได้ แต่ถ้ามีหลาย ๆ ต้น ก็ทำหลังคาใสมาบังไว้เลยก็จะดีมากครับ
          กรณีที่อยากเอามาวางประดับบนโต๊ะบ้าง ก็ยังสามารถทำได้ครับ ก็คือเลี้ยงสักหลาย ๆ ต้นหน่อย แล้วเวียนเอาพวกเขามาตั้งประดับสัก 2-3 วัน แล้วก็เอาออกไปเปลี่ยนคืนนั่นเอง การทำแบบนี้ ก็ใช่ว่าจะดีนะครับ แค่สามารถยืดชีวิตพวกเขาไปได้นานขึ้นก็เท่านั้นเอง นาน ๆ ไป ก็อาจจะแคระแกรนได้เช่นกันครับ แสงแดดจำเป็นต่อชีวิตพวกเขามาก เป็นพันธุ์หนาม หนามก็จะยาวสวยงาม เป็นพันธุ์ขนขาวปุย ก็จะขาวหนานุ่มสวยงามเช่นกัน



การดูแลรดน้ำแคคตัส
          มาว่าถึงอีกเรื่องที่สำคัญก็คือ การให้น้ำ แคคตัสเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำมาก ให้น้ำมากคือการฆ่าพวกเขาให้ตายนั่นเอง การเอาตัวรอดในเรื่องน้ำ พวกเขาพัฒนามาเป็นล้าน ๆ ปีแล้ว นั่นคือลำต้นที่อวบอิ่มเก็บกักน้ำไว้ภายในนั่นเอง
          ให้สังเกตดินปลูกเลี้ยงว่าแห้งแล้วหรือยัง ถ้าแห้งแล้วก็ให้ใช้ฝักบัวรดให้ชุ่ม ส่วนระยะเวลาห่างในการรดน้ำ สังเกตุง่าย ๆ หลังจากที่เรารดน้ำไปวันแรก ให้เช็คดูว่า อีกกี่วันดินถึงจะแห้ง เมื่อดินแห้งแล้วให้เว้นไปอีก 1 วัน แล้วค่อยรดน้ำใหม่ โดยให้ปล่อยดินได้แห้งบ้าง ไม่ใช่ชุ่มฉ่ำเปียกอยู่ตลอดเวลา ขนาดของกระถางเล็ก กระถางใหญ่ ก็มีผลกับระยะในการแห้งของดิน โดยเฉลี่ยแล้วจะรดประมาณ 4-5 วันครั้ง ถ้าเป็นไม้ต่อที่ต้องการน้ำมากหน่อย ก็จะรดวันเว้นวัน ถ้าเป็นกลุ่มฮาโวเทียจะรดพร้อมกับแคคตัส แต่จะสเปรย์น้ำให้วันเว้นวัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์อีกต่างหาก

การใส่ปุ๋ยแคคตัส
          สามารถใช้ปุ๋ยกล้วยไม้ให้แก่แคคตัสได้ แต่ควรใช้ในปริมาณที่ต่ำกว่าฉลากข้างขวดระบุไว้  ไม่ควรให้ปุ๋ยแคคตัสในปริมาณมาก เพราะอาจเกิดผลร้ายมากกว่าผลดี
          วิธีให้ปุ๋ยให้ได้ผลดีคือ ผสมให้เจือจางกว่าปกติ แต่รดให้บ่อยกว่าปกติ ใช้ปุ๋ยกล้วยไม้ 1 กรัม ต่อน้ำ 1 ลิตร รดทุก ๆ 2 สัปดาห์ก็พอ
          การให้ปุ๋ยแก่ต้นไม้ทุกชนิด ควรเริ่มให้เมื่อต้นไม้สามารถตั้งตัวได้ดีแล้ว ระบบรากเดินดีพร้อมที่จะกินอาหารได้ เวลาที่เราเปลี่ยนกระถางใหม่ ๆ ควรงดปุ๋ยไปจนกว่ายอดของต้นจะเริ่มเดิน นั่นหมายถึงสัญญานว่า ระบบรากเริ่มทำงานแล้ว  การรักษาระยะเวลาให้สม่ำเสมอในการให้ปุ๋ย จึงเป็นสิ่งควรยึดถือเป็นหลักในการปฏิบัติ เพื่อสุขภาพที่ดีของแคคตัส
          ส่วนยาฆ่าแมลงหรือยาป้องกันเชื้อราต่าง ๆ ผสมน้ำรดทุก ๆ 2-3 เดือน ต่อ 1 ครั้งก็เพียงพอแล้ว


การปลูกหรือเปลี่ยนกระถางแคคตัส
          การปลูกจะกระทำเมื่อแยกหน่อหรือได้ต้นใหม่ ส่วนการเปลี่ยนกระถางจะกระทำเมื่อต้นโตคับกระถางเก่า แต่อย่าลืมว่าต้องใช้ดินปลูกโดยเฉพาะเท่านั้น จะซื้อแบบที่เป็นถุงสำเร็จรูปสำหรับปลูกแคคตัสโดยเฉพาะ หรือจะผสมเองก็แล้วแต่เลย สูตรสำหรับดินก็มีให้เลือกหลากหลายมากมายอยู่เหมือนกันครับ สำหรับส่วนประกอบหลักที่เราจะผสมลงไปก็ ได้แก่
               เนื้อดิน เช่น ดินขุยไผ่  ดินใบก้ามปู ดินที่ผสมใบไม้หมักต่างๆแกลบ ขุยมะพร้าว พีทมอส หรือ มูลสัตว์ต่าง ๆ
               วัสดุที่ช่วยเพิ่มความโปร่งให้ดิน เช่น เพอร์ไลท์ (Perlite) หินภูเขาไฟ (Pumice) เวอร์มิคูไลท์ (Vermiculite) กรวดแม่น้ำ มะพร้าวสับ ถ่าน
                สารเคมีต่าง ๆ เช่น ปุ๋ยละลายช้า ยาฆ่าแมลงแบบเกร็ด (สตาร์เกิ้ลจี ฟูราดาน) ยาฆ่าเชื้อรา
ส่วนประกอบหลัก 3 ส่วนนี้ ควรจะเลือกชนิดที่นำมาผสม ให้เข้ากับความสะดวกในการซื้อหา และให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่นั้น ๆ
          ในการผสมดินนั้น เราควรคำนึงถึงความสะอาดของดินเพื่อไม่ให้เกิดเชื้อราหรือเชื้อโรคต่างๆในวัสดุที่เราจะนำมาผสมเราควรทำความสะอาด หรือ ตากแดดไว้สัก 3–5 วัน ก่อนที่จะนำมาผสมส่วนประกอบที่จะนำมาผสม มีธาตุอาหารเพียงพอหรือไม่ดินมีความโปร่งพอหรือไม่ดินโปร่งจะทำให้ดินแห้งไวน้ำสามารถซึมผ่านไปได้ทั้งกระถางตามธรรมชาติของแคคตัสแล้ว ไม่ได้ต้องการเนื้อดินเยอะควรเน้นไปที่วัสดุที่ช่วยความโปร่งให้ดินแล้วใส่ดินไปประมาณ ¼ ก็เพียงพอแล้วข้อสำคัญหลังจากที่ผสมดินเสร็จแล้ว ควรรดน้ำให้ชุ่ม และตากแดดทิ้งไว้ประมาณ 1-2 อาทิตย์ เราจะได้ดินที่สะอาดและไม่มีความร้อน จากการย่อยสลายตัวของอินทรีย์สารในดิน
ส่วนสูตรดินมีหลากหลายมากขึ้นอยู่กับวัสดุด้วยในที่นี้ขอใช้สูตรของ Jibi Cactus อีกเรื่องที่สำคัญคือขนาดของกระถางต้องเลือกให้เหมาะสมกับขนาดของต้นแคคตัส ม่เล็กและใหญ่จนเกินไปด้วย
                 1. ดินร่วน 1 ถ้วย
                 2. ทรายหยาบ 1 ถ้วย
                 3. พีทมอส 1 ถ้วย
                 4. หินภูเขาไฟ 1 ถ้วย
                 5. เพอร์ไลท์ 1 ถ้วย
                 6. แกลบดำ ½ ถ้วย
          ส่วนวัสดุที่นำมาโรยหน้าดินให้เลือกหินที่ไม่คมหรือแหลมเกินไปจนทำให้บาดต้นสีสันให้เข้ากับธรรมชาติการโรยหน้าดินช่วยป้องกันไม่ได้เศษดินดำๆกระเด็นไปโดนปุยขาวๆหรือเลอะโคนต้น


https://www.pinterest.com/pin/639581584552390426/


➷Vedio การเริ่มเลี้ยงต้นกระบองเพชร➹






https://www.youtube.com/watch?v=TM0NuHr1JL8&t=22s


➷ตัวอย่างธุรกิจกระบองเพชร➹



กิจกรรมที่ 4

Presentation1 from anchana rujiwattanapong